การติดเชื้อจากแบคทีเรียสตาฟีโลค็อกคัสและสุขอนามัยของผิวหนัง
เราทุกคนต่างต้องการมีผิวสุขภาพดี เพราะผิวที่มีสุขภาพดีจะช่วยให้เรารู้สึกดีและมีความมั่นใจ
เมื่อต้องพบปะกับผู้คน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ไม่ว่าผิวของคุณจะแลดูสุขภาพดีเพียงใด ผิวหนังของมนุษย์
ก็ยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคขนาดเล็กจำนวนมากที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า?
หนึ่งในนั้นคือเชื้อแบคทีเรียสตาฟีโลค็อกคัส
โดยมากแล้ว แบคทีเรียนี้มีผลเพียงเล็กน้อยต่อร่างกายมนุษย์หรือแทบจะไม่มีผลเลย แต่หากเชื้อเข้าสู่
ร่างกายในระดับลึก ก็อาจก่อให้เกิดอาการติดเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่าการติดเชื้อจากแบคทีเรียสตาฟีโลค็อกคัส โดยทั่วไป อาการติดเชื้อดังกล่าวสามารถรักษาได้โดยการรับประทานยาหรือทาครีมปฏิชีวนะ แต่การติดเชื้อจากแบคทีเรียสตาฟีโลค็อกคัสบางชนิด อย่างเช่นที่เกิดจากเชื้อเอ็มอาร์เอสเอ
ก็มีอาการดื้อยาปฏิชีวนะ ทำให้การรักษายากขึ้นกว่าปกติ
แบคทีเรียสตาฟีโลค็อกคัสสามารถแพร่กระจายได้ในอากาศในลักษณะของสะเก็ดผิวหนัง (ฝุ่นละออง)
การสัมผัสผิวหนังของผู้ติดเชื้อ หรือการสัมผัสพื้นผิวที่มีเชื้อแบคทีเรียดังกล่าว โดยทั่วไปแล้ว
ผิวกายของมนุษย์จะทำหน้าที่เป็นปราการป้องกันมิให้เชื้อโรคหรือแบคทีเรียเล็ดรอดเข้าทำอันตรายระบบต่างๆ
ของร่างกาย แต่หากผิวหนังมีบาดแผล เชื้อจากแบคทีเรียสตาฟีโลค็อกคัสก็สามารถเข้าสู่ร่างกาย
ทางบาดแผลดังกล่าวได้และเป็นสาเหตุให้เกิดการติดเชื้อจากแบคทีเรีย
การติดเชื้อดังกล่าวสามารถแบ่งออกได้เป็นสองกลุ่ม ดังนี้
- การติดเชื้อบริเวณผิวหนังและเนื้อเยื่อ การติดเชื้อในลักษณะนี้มักไม่รุนแรง แบคทีเรียจะทำอันตรายเฉพาะบริเวณรอบบาดแผลเท่านั้น
- การติดเชื้อแบบรุกล้ำ ในกรณีที่เชื้อแบคทีเรียแพร่เข้าสู่กระแสโลหิต กระดูก ปอด หรือหัวใจ การติดเชื้อจะเข้าข่ายรุนแรงและอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต
อาการที่พบบ่อยของการติดเชื้อจากแบคทีเรียสตาฟีโลค็อกคัสบริเวณผิวหนังและเนื้อเยื่อ มีดังนี้
- แผลมีหนอง - บาดแผลจะมีอาการบวมแดงและมีตุ่มหนองสีเหลืองบริเวณกึ่งกลางบาดแผล การบีบหนองออกอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อ ผู้ป่วยจึงควรปล่อยให้หนองสุก เมื่อแผลแตก
ทำความสะอาดและปล่อยให้แผลแห้ง - ผิวหนังพุพอง - มักพบในเด็กและมีอัตราการแพร่กระจายสูง ผู้ป่วยจะมีแผลพุพองที่อาจแตกและน้ำเหลืองไหลออกจากแผล หรืออาจเป็นแผลพุพองขนาดใหญ่ที่ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึก
เจ็บปวด การเกาบริเวณแผลอาจก่อให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรีย - เนื้อเยื่ออักเสบ - อาการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณใต้ผิวหนัง ก่อให้เกิดอาการพุพอง บวม แดง และเจ็บปวด ผู้ป่วยอาจมีอาการคลื่นไส้และรู้สึกหนาวสั่นร่วมด้วย
- อาการผิวหนังลอกทั้งตัวจากแบคทีเรียสตาฟีโลค็อกคัส - มักพบในทารกหรือเด็กเล็ก
อายุต่ำกว่าห้าปี อาการของโรคคือผู้ป่วยจะมีแผลพุพองจำนวนมากคล้ายแผลจากการถูกน้ำเดือด
ในทารกอาจมีไข้สูงและผิวหนังหลุดลอก
หากพบว่าคุณหรือสมาชิกในครอบครัวมีอาการของโรคดังกล่าว คุณควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
ด้านการดูแลสุขภาพเพื่อรับการรักษาอาการติดเชื้อด้วยยาปฏิชีวนะ
ธีการป้องกัน
ล้างมือเป็นประจำด้วยสบู่และน้ำสะอาด รวมถึงหลังการเข้าห้องน้ำและก่อนการรับประทานอาหาร
อาบน้ำทำความสะอาดผิวกายเป็นประจำทุกวันเพื่อช่วยให้ผิวกายสะอาดสุขภาพดี
หากคุณมีบาดแผล ทำความสะอาดแผลด้วยยาฆ่าเชื้อ จากนั้นปิดแผลให้สนิทด้วยผ้าปิดแผลเพื่อป้องกันเชื้อโรคจากฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก หมั่นเปลี่ยนผ้าปิดแผลและล้างมือทุกครั้งก่อนและหลังทำแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้ออื่นๆเพิ่มเติม